แอคเทลิค 50 อีซี ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงทางสาธารณสุข

 

 

 

ประโยชน์

ใช้ป้องกันกำจัดแมลงในบ้านเรือนหรืออาคารสถานที่ เช่น ยุง แมลงวัน แมลงสาบ มด
ผ่านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย(อย.) เลขทะเบียน 112/2558
อยู่ในกลุ่มสารเคมี ออร์กาโนฟอสเฟส (organophosphate)
สารออกฤทธิ์ พิริมิฟอส-เมทิล (pirimiphos-methyl) 50% W/V
ส่งผลต่อแมลงเมื่อได้รับสาร สารเคมีจะเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อของแมลงกระตุกสั่นจนเกิดอาการเกร็ง และตายในที่สุด
บรรจุ ขวดละ 1 ลิตร (1000 มิลลิลิตร)
วิธีเก็บรักษา

ควรเก็บให้ห่างจากเปลวไฟหรือความร้อน

เก็บให้มิดชิดพ้นจากมือเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง

วิธีผสม

(สำหรับแมลงคลาน)

 เช่น แมลงสาบ

(ฉีดพ่นตามทางเดิน ซอกมุม แหล่งหลบซ่อน)

ผสม Actellic 50 EC จำนวน 50 มิลลิลิตร ต่อ น้ำ 1 ลิตร

หรือ ผสม Actellic 50 EC จำนวน 1 ลิตร ต่อ น้ำ 20 ลิตร

 

อัตราการฉีดพ่น   

 

ฉีดพ่น (หลังจากผสมแล้ว)

ฉีดพ่นในอัตรา 40 ซีซีต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร

หรือฉีดพ่นในอัตรา 20 ลิตร ต่อพื้นที่ 500 ตารางเมตร

วิธีผสม

(สำหรับเครื่องพ่นหมอกควัน)

ผสม Actellic 50 EC จำนวน 50 มิลลิลิตร ต่อ น้ำมัน 1 ลิตร

หรือ ผสม Actellic 50 EC จำนวน 1 ลิตร ต่อ น้ำมัน 20 ลิตร

 

อัตราการฉีดพ่นหมอกควัน                  

 

 

ฉีดพ่นในอัตรา 100 มิลลิลิตร(ที่ผสมแล้ว) ต่อ 100 ลูกบาศก์เมตร

ฉีดพ่นในอัตรา 10000 มิลลิลิตร(ที่ผสมแล้ว) ต่อ 10000 ลูกบาศก์เมตร

ฉีดพ่นในอัตรา 20000 มิลลิลิตร(ที่ผสมแล้ว) ต่อ 20000 ลูกบาศก์เมตร 

 

วิธีผสม

(สำหรับฉีดพ่นกำจัดมอด)

   O.Colepotera

ผสม Actellic 50 EC จำนวน 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 1 ลิตร

หรือ ผสม Actellic 50 EC จำนวน 1 ลิตร ต่อน้ำ 50 ลิตร

อัตราการฉีดพ่น  

ฉีดพ่น (หลังจากผสมแล้ว)

ในอัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร

หรือ 50 ลิตร ต่อพื้นที่ 500 ตารางเมตร

คำเตือน 

1. โปรดใช้อย่างระมัดระวัง มิให้เข้าตา ปาก จมูก สัมผัสผิวหนังหรือเสื้อผ้า

2. หลังจากฉีดพ่นเสร็จ รีบทำความสะอาดชำระร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนดื่มน้ำ รับประทานอาหารหรือสูบบุหรี่

** หากมีการระคายเคืองหรืออาการแพ้อย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์พร้อมฉลากแอคเทลิค 50 อีซี

 

เคมีกำจัดมอด และแมลง แอคเทลิค 50 อีซี (Actellic 50 EC)

 

แอคเทลิค 50 อีซี เป็นยากลุ่มออกาโนฟอสเฟส ที่มีความปลอดภัยที่สุดก็ว่าได้เนื่องจาก แอคเทลิค 50 อีซี สารออกฤทธิ์คือ พิริมิฟอส เมททิล (pirimiphos-methy) 50% สามารถใช้กำจัดแมลงได้ในวงกว้าง คือสามารถใช้กับการฉีดพ่นสเปรย์ ใช้กับเครื่องพ่นละอองฝอย เครื่องพ่นหมอกควัน การกำจัดแมลง สามารถกำจัดแมลงบินเช่น ยุง แมลงวัน กำจัดแมลงคลาน เช่น แมลงสาบ มด ตัวเรือด และสามารถกำจัดแมลงศัตรูโรงเก็บ จำพวกมอด ได้เป็นอย่างดี

แอคเทลิค 50 อีซีเป็นยาที่มีคุณสมบัติสูงในการกำจัดแมลงบิน เนื่องจาก สารเคมีส่วนใหญ่ที่พบในการควบคุมปริมาณยุงและแมลงโดยมากจะเป็นสารกลุ่ม ไพรีทรอยด์ เพราะสารเคมีกลุ่มออกาโนฟอสเฟส (organophosphate) โดยปกติจะมีค่าความเป็นพิษสูงและมีกลิ่นแรงมาก จึงไม่นิยมใช้ในการพ่นควบคุมแมลงบิน แต่แอคเทลิค 50 อีซี เป็นสารที่มีค่าความปลอดภัยสูงมาก และยังมีเอกสารรับรองอีกมากมาย

 

มีการยืนยันจาก WHOPES ว่าเป็นสารเคมีที่สามารถใช้ในการควบคุมแมลงที่มีความปลอดภัยสูงมาก และมีความปลอดภัยสูงที่สุดในกลุ่มของออร์กาโนฟอสเฟต ทั้งในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย แอคเทลิค 50 อีซี ยังเหมาะสมใช้ในการควบคุมกำจัดแมลงที่ดื้อยาในกลุ่ม ไพรีทรอยด์ และคาร์บาเมท ได้ดีอีกด้วย 

 

สำหรับการควบคุมยุงตามแหล่งน้ำ เรายังสามารถฉีดพ่นยาพิริมีฟอส เมทิล (pirimiphos-methyl) 50% ในอัตราส่วนเพียงเล็กน้อยเพื่อใช้ในการป้องกันการเกิดของลูกน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆได้ดี

 

ยากำจัดแมลงแอคเทลิค 50 อีซี มีเอกสารรับรองถูกต้องตามมาตราฐานองค์การอาหารและยา ว่าเหมาะสมกับการใช้ภายในที่อยู่อาศัย โรงงาน โรงอาหาร สถานที่ราชการ เป็นต้น

 

สารรมฟูมิเกรน (Aluminium Phosphide)

 

     Aluminum phosphide

 

ประโยชน์ ควบคุมและกำจัดแมลงศัตรูพืชในระยะตัวอ่อน และตัวเต็มวัย
ผ่านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย(กปศ.)  เลขที่ 1331-2555
อยู่ในกลุ่มสาร Inorganic
สารออกฤทธิ์ Aluminium phosphide 56%
การส่งผลต่อแมลง ดูดซึมผ่านทางระบบทางเดินหายใจ และไปยับยั้งกระบวนการทำงานหายใจระดับเซลล์ทำให้เนื้อเยื่อไม่สามารถดูดออกซิเจนไปใช้ส่งผลให้ขาดพลังงาน และตายในที่สุด
ขนาดบรรจุ 1.5 กิโลกรัม
วิธีเก็บรักษา ปิดบรรจุภัณฑ์ให้สนิท หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ชื้นหรือมีไอน้ำ ควรเก็บในที่แห้ง และเย็น มีการระบายอากาศได้ดี
อัตรการใช้ 2-3 เม็ด ต่อผลผลิต1 ตัน หรือ 1-2 เม็ด ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร
*ในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน
ข้อควรระวัง ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญ และสวมอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะหน้ากากเพื่อป้องกันการสูดดมสารเนื่องจากการได้รับสารนี้จะผ่านทางระบบทางเดินหายใจ โดยไม่ซึมผ่านผิวหนัง ดังนั้นการใช้งานจึงควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก


 
     

         

     Phosphine (ฟอสฟีน) เป็นหนึ่งในสารรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นสารที่สามารถแพร่กระจายได้ทั่วบริเวณ โดยที่ไม่ทิ้งสารพิษตกค้าง จัดเป็นสารประเภท Inorganic หรือสารประกอบทางเคมี โดยมีสารออกฤทธิ์ คือ Aluminium phosphide

 

      Aluminium phosphide มีความสามารถในการกำจัดแมลง ในระยะตัวอ่อน และตัวเต็มวัยของแมลงได้เกือบทุกชนิดได้อย่างรวดเร็วในความเข้มข้นไม่สูงมากแต่สำหรับแมลงในระยะไข่และระยะดักแด้ ต้องใช้เวลารมนานกว่าปกติ และต้องใช้ความเข้มข้นสูงขึ้น เนื่องจากในสองระยะนี้มีอัตราการหายใจที่ต่ำทำให้ได้รับพิษของฟอสฟีนช้า ซึ่งกลไกการทำงานของอลูมิเนียมฟอสไฟด์จากการใช้สารรม จะส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจของศัตรูพืช ทำให้ไม่สามารถนำออกซิเจนไปใช้ได้และตายในที่สุด

 

       นอกจากสามารถทำลายแมลงศัตรูพืชแล้วยังสามารถทำลายศัตรูพืชชนิดอื่น เช่น หนู นก หรือเชื้อราในโรงเก็บได้ เพื่อคุณภาพที่ดีของผลผลิต จึงควรมีวิธีที่ป้องกันแมลงและศัตรูพืชควบคู่หลังจากการรมสาร เนื่องจากการใช้ ฟอสฟีน เป็นการทำลายศัตรูพืชที่ไม่มีสารพิษตกค้าง และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิต จึงเรียกว่าเป็นการควบคุมและกำจัดมากกว่าการป้องกันแมลงศัตรูพืชในระยะยาวได้

 

*ฟอส แก๊ส (Phos Gas) เป็นฟอสฟีนจากประเทศเบลเยี่ยม โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน

 

*ตามมาตรฐาน Codex ได้กำหนดปริมาณตกค้างของฟอสฟีนไว้ที่ 0.1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สำหรับธัญพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการ และที่ 0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สำหรับธัญพืชที่ผ่านกระบวนการแล้ว

เอธีนา เจล (ATHENA GEL) ผลิตภัณฑ์เจลแมลงสาบ

เอธีนา เจล (ATHENA GEL)

ประโยชน์

ใช้กำจัดแมลงสาบ ภายในอาคารและสถานที่ต่างๆ

ผ่านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย(อย.)

เลขทะเบียน 14/2555

สารออกฤทธิ์

ฟีโพรนิล (fipronil) 0.05% W/V

อยู่ในกลุ่มสาร

ฟีนิลไพราโซล (phenylpyrazole)

ส่งผลต่อแมลงเมื่อได้รับสาร

เป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลง ทำให้การทำงานของระบบประสาทผิดปกติและแมลงจะตายในที่สุด

บรรจุ

หลอดละ 20 กรัม

วิธีผสม

ใช้โดยผู้ชำนาญในการกำจัดแมลง

  • หยด เอธีนา เจล 1-3 หยด ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
  • หยด เอธีนา เจล บริเวณที่มีแมลงสาบชุกชุม หรือบริเวณที่แมลงสาบชอบเดินผ่าน

วิธีเก็บรักษา

เก็บในที่แห้ง ให้ห่างจากเปลวไฟหรือความร้อน

เก็บให้มิดชิดพ้นจากมือเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง

คำเตือน

1. ภายหลังการใช้ หรือหยิบจับบรรจุภัณฑ์ จะต้องล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง

2. ภาชนะบรรจุที่ใช้หมดแล้วให้ทำลายทิ้ง ห้ามนำกลับมาใช้ซ้ำ

** หากมีการระคายเคืองหรืออาการแพ้อย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์พร้อมฉลากเอธีนา เจล
 

เอธีนา เจล (ATHENA GEL)

 

          เอธีนา เจล (ATHENA GEL) เป็นเหยื่อแมลงสาบที่ง่ายต่อการใช้งานและสามารถควบคุมประชากรแมลงสาบอย่างได้ผลดี เนื่องจากคุณลักษณะของเอธีนา เจล (ATHENA GEL) ผลิตมาจากส่วนผสมที่มีความดึงดูดมากกว่าอาหารทั่วไป และยังสามารถใช้ในพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้สารเคมีฉีดพ่นได้ เอธีนา เจล (ATHENA GEL) เป็นเหยื่อชนิดที่สามารถทำให้แมลงสาบตายอย่างต่อเนื่อง การใช้เอธีนา เจล (ATHENA GEL) ในอัตราส่วนเพียงเล็กน้อยก็สามารถกำจัดแมลงสาบได้หลายร้อยตัวเลยทีเดียว เนื่องจากการออกฤทธิ์ของสารสำคัญในผลิตภัณฑ์นี้ และด้วยพฤติกรรมที่แมลงสาบมักชอบกินเศษซากของสิ่งต่าง ๆ เมื่อแมลงสาบ 1 ตัวกิน เอธีนา เจล (ATHENA GEL) เข้าไปแล้วตาย แมลงสาบตัวอื่น ๆ ก็จะกินซากแมลงสาบตัวที่ตายแล้ว ทำให้ เอธีนา เจล (ATHENA GEL) ถูกส่งต่อไปสู่ตัวอื่น ๆ เป็นโดมิโน เอฟเฟคต์

 

วิธีการใช้
          เพียงหยดเจลแมลงสาบ 1-2 จุด ต่อ 1 ตารางเมตร หรือหากบริเวณนั้นมีปริมาณแมลงสาบชุกชุม ให้หยดเจลแมลงสาบ 3-4 จุด ต่อ 1 ตารางเมตร ตามซอกมุมในห้องครัว โรงอาหาร พื้นที่สำหรับผลิตอาหาร โรงแรม บริเวณเครื่องสำหรับผลิตอาหาร ก็สามารถควบคุมประชากรแมลงสาบได้ดี เทียบเท่ากับการฉีดพ่นสารเคมี

ข้อแนะนำ ไม่ควรใช้เจลแมลงสาบพร้อมกับวันที่มีการฉีดพ่นสารเคมี เนื่องจากจะทำให้เจลแมลงสาบปนเปื้อนสารเคมีส่งผลทำให้แมลงสาบไม่กินเจลแมลงสาบนั่นเอง

 

ผ้าคลุมรมสารเคมี (Tarpaulin Sheet)

ผ้าคลุมพลาสติกสำหรับรมยา  (Tarpaulin Sheet)  

 

 

คุณสมบัติ

ทนต่อแสงอัลตราไวโอเลต ทนทานต่อการฉีกขาด สารไม่สามารถผ่านเข้าออกได้

ขนาด

คำนวณจาก กว้าง x ยาว x สูง (ตามขนาดกองผลผลิตจริง) มีความหนา 2 ขนาด คือ 0.1 และ 0.2mm.

*ความหนา 0.1 mm. ไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้ซ้ำ

วิธีใช้

ใช้คลุมกองผลผลิตเพื่อรมสารกำจัดศัตรูพืช เช่น Phos-Gas เป็นต้น โดยคลุมให้มิดชิดให้สารซึมผ่านออกด้านนอกได้ โดยหากใช้ผ้ามากกว่า 1 ผืน ต้องใช้ที่หนีบหรือคลิปหนีบทุก ๆ 20 ซม. เพื่อป้องกันการรั่วไหลของก๊าซ

*ผ้าคลุมที่ใช้ต้องไม่มีรอยชำรุด รั่ว หรือฉีกขาด

วิธีการเก็บรักษา

หลังจากการใช้งาน ทำความสะอาดนำไปผึ่งในที่โล่ง และมีอากาศถ่ายเทสะดวก จากนั้นทำการเก็บ โดยพับชายทั้งสองด้านเข้าตรงกลางแล้วม้วนเก็บให้เรียบร้อย

ข้อควรระวัง

เก็บให้พ้นจากหนู หลีกเลี่ยงการเดินเหยียบบนผ้าใบ หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ชำรุด ฉีกขาด 

 

         ผ้าคลุมพลาสติกสำหรับรมยา  (Tarpaulin Sheet) หรือที่รู้จักกันว่าผ้าคลุมกอง ใช้สำหรับคลุมผลผลิต โดยส่วนใหญ่มักจะใช้คลุมเพื่อรมแก๊ส รมยา หรือสารกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น มอด ผ้าคุมกองที่ดีต้องมีคุณสมบัติในการทนต่อแสงอัลตราไวโอเลต ทนทานต่อการฉีกขาด สารไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ การใช้ควรวัดขนาดจากกองผลผลิตจริง และควรปิดให้มิดชิดไม่ให้มีช่องว่างที่สารจะซึมผ่านออกจากกองผลผลิตขณะทำการรมยา เพื่อการกำจัดมอดในโรงสีหรือมอดในผลิตผลอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญผ้าคลุมที่ใช้ต้องไม่มีรอยชำรุด รั่ว หรือฉีกขาด ผ้าคลุมกองมักใช้คู่กับสารรม เช่น ฟอสฟีน หรือ อลูมิเนียมฟอสไฟด์ (Aluminium Phosphide)

 

     ผ้าคลุมพลาสติกสำหรับรมยา ใช้คลุมกองข้าวขณะรมยาเพื่อกำจัดมอด รา และศัตรูพืชอื่นๆ เนื่องจากการรมกองข้าวที่มีขนาดใหญ่และและใช้เวลานาน ผ้าคลุมกองจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม สารเคมีหรือแก๊สไม่สามารถซึมผ่านได้ ไม่ฉีกขาดง่าย เนื่องจากการรมยาในกองข้าวจะต้องให้แก๊สฟอสฟีนซึมเข้าไปในทุกส่วนของกองข้าว ถ้ามีการรั่วหรือแก๊สสามารถซึมผ่านได้จะทำให้การรมไม่มีประสิทธิภาพ ระยะตัวอ่อนและระยะตัวเต็มวัยอาจจะตาย แต่ระยะไข่และระยะดักแด้ไม่ตาย ทำให้ไข่สามารถฟักออกมาเป็นตัวอ่อน และดักแด้ฟักออกมาเป็นตัวเต็มวัยได้ 

 

     ผ้าคลุมกองควรมีความหนาพอดีที่สารเคมีไม่สามารถซึมผ่านได้ และที่สำคัญจะต้องไม่หนาจนเกินไป เพราะกองข้าวที่ต้องการรมยามักจะมีขนาดใหญ่มาก ความกว้างและความยาวของผ้าคลุมกองจะเยอะมากตามไปด้วย การที่ผ้าคลุมกองมีความหนาเกินไปจะทำให้ผ้าคลุมกองมีน้ำหนักมาก ไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย การจัดเก็บ และการนำไปใช้ ผ้าคลุมกองที่ดีจึงควรมีความหนาพอดีไม่บางหรือหนาจนเกินไป